วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สื่อผสม




งานชิ้นนี้เป็นงานที่ผมทำแล้วสนุกดี ไม่มีความกดดันใดๆ เลย เพราะเป็นการ์ดที่ทำให้น้องชาย ก็ยังไงก็ได้ คิดภาพไว้ในหัวลักษณะอยากให้ออกมาเท่ห์ๆ ดุดันนิดๆ แล้วก็แฝงข้อความบางอย่างไว้ในภาพ

เริ่มต้นด้วยการเพ้นท์ตัวก่อนครับ แล้วก็สร้างตัวหนังสือ แล้วบูมมมมม .... เอาสิ่งต่างๆที่คิดไว้มารวมกัน หลังจากที่มันฟุ้งอยู่ในหัวเยอะมาก ผมก็เริ่มเห็นถึงความรกขององค์ประกอบต่างๆ เดินถอยมากจากหน้าจอคอมพ์ ไปหานั่งจิบกาแฟสักพักกลับมา คราวนี้แหละครับ เราจะได้เห็นภาพรวมในมุมกว้าง ถ้าเรานั่งจดจ่ออยู่หน้าคอมพ์อาจจะไม่เห็นว่างานเราขาด หรือเกินยังไง ไม่เชื่ออย่าลบลู่นะ อิอิ

เบ็ดเสร็จแล้ว ก็ใช้หลายอย่างทั้งเพ้นท์ รีทัช ตัดปะ สื่อผสมก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนุก ลองดูเผื่ออาจจะเจอสิ่งใหม่ๆ ที่เราชอบก็ได้ครับ



ปล.อย่าไปคิดเรื่องการตกกระทบของแสงเงานะครับ ผมมั่ว 5555

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องสั้นคั่นเวลา





หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เป็นงานที่เพิ่งทำจบไปไม่นาน ผมก็ วนๆ เวียนๆ อยู่ในแวดวงหนังสือพิมพ์ อยู่ตลอด แม้จะลาออกจากงานประจำที่เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ก็ไม่วายที่ยังรับจ๊อบเป็นหนังสือพิมพ์อีก สงสัยดวงชะตาจะถูกกัน

จะว่าไปแล้วมันคงเป็นสิ่งที่ผมถนัดที่สุดก็ว่าได้ เพราะคลุกคลีกับมันมาเป็นเวลา 8-9 ปี เลยทีเดียว และมันก็ทำให้ผมรู้จักกับงานกราฟฟิกมากขึ้น ถึงแม้ว่ากราฟฟิกจะใช้ในงานหนังสือพิมพ์ไม่เยอะ แต่มันก็เป็นประตูสู่โลกแห่งสิ่งพิมพ์ และงานกราฟฟิกในส่วนอื่นอีกมากมาย

ผมจะเล่านิทานให้ฟั งระหว่างที่ยังไม่ได้เขียนภาพใหม่ออกมา

...นับเวลาถอยหลังไปคนชอบเขียนการ์ตูนคอมิคอย่างผม ก็เขียนเล่นๆ ในสมุด กระดาษ เอามาให้เพื่อนๆอ่านในห้องเรียน พวกมันก็ชอบกัน บางคนบริจาคสมุดเอามาให้ผมวาดกันเลยทีเดียว ผมจึงมีความฝัน ในแบบอุดมคติว่าอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนไทย ที่โด่งดัง อย่างโทริยาม่า อากิร่า ผุู้วาดการ์ตูนดังอย่างดราก้อนบอล เขาเป็นฮีโร่ ผมมักจะรู้สึกปลื้มมาก เวลาถูกเพื่อนเรียกว่าโทริยาม่าเมืองไทย (ถ้าเป็นตอนนี้คงรู้สึกเศร้า เพราะว่าไม่มีลายเส้นเป็นของตัวเอง)

พอเรียนจบผมก็รู้ว่าอาชีพนักเขียนการ์ตูนไทยมันโหดมาก ใช้สกิลสูง รายได้น้อย จึงมีนักเขียนไม่น้อยที่ยอมถอดใจหลุดหายไปจากความฝันของตน เมื่อพบกับความจริง ที่ต้องกินต้องใช้ชีวิต จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับผมเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ผมก็ยังพยายามเข้าไปใกล้ชิดทำงานเกี่ยวกับการ์ตูน โดยเขียนภาพประกอบ แต่งภาพ การ์ตูน ออกแบบปกการ์ตูนบ้าง แต่งานตอนนั้น ก็เป็นลักษณะ freelance ซึ่งยังไม่มั่นคง

จนกระทั่งมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เปิดตัวเพื่อแข่งกับหนังสือพิมพ์ระดับแนวหน้าของประเทศ ผมก็เข้าร่วมทีมคนหนึ่งในนั้น และนั่นเองผมก็กับการ์ตูนก็ห่างกัน ไป เราจะมาพบกันบางในครั้งที่เหงาๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเรา ผมคงเป็นเพียงผู้อ่าน เท่านั้น และมีขีดเขียนบ้างในยามว่าง แต่มันก็ไม่ได้จริงจังอะไร...

graphic เป็นงานในส่วนที่มาชดเชยความรู้สึกนั้นของผม ผมชอบการจัดวางองค์ประกอบ การเห็นรูปสวยๆ งาน design ที่สวยๆ ซึ่งมันรู้สึกยินดีที่เรายังมีพื้นที่ให้ยืน ถึงอาจจะไม่ใช่สิ่งแรกที่ผมเคยฝัน แต่มันก็ยังไม่ทิ้งไปเลยซะทีเดียว

จนวันนี้ผมออกจากงาน มีเวลาพอมานั่งคิดเรื่อยเปื่อย ว่าจริงๆแล้วมึงชอบอะไรกันแน่วะ

ผมว่าผมมีคำตอบแล้วนะ ....


ปล.ใครอยากปรึกษาเรื่องในการทำหนังสือพิมพ์ ผมยินดี ไม่อยากให้ความรู้นี้หายไปเหมือนกัน